ประวัติ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม อยุธยา
ผู้เขมขลังศักดิ์สิทธิ์ พระเวทย์พุทธาคมขลัง
“หลวงพ่อกลั่น ธัมมโชโต” หรือ พระอุปัชฌาย์กลั่น วัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระเกจิชื่อดังในอดีต
เกียรติคุณความแก่กล้าในสรรพวิทยาคม ยังได้รับการกล่าวขวัญจนถึงปัจจุบัน
เกิดราว พ.ศ.2390 ปีมะแม ต.อรัญญิก อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวฐานะยากจน พ่อแม่รับจ้างทั่วไป ต้องต่อสู้เพียงลำพังคนเดียว
เดิมมีชื่อว่า “อู๊ด” แต่บิดาเห็นว่าเป็นเด็กเฉลียวฉลาดและกล้าหาญ จึงเปลี่ยนให้ใหม่ว่า “กลั่น”
เรียนหนังสือและวิชาช่างในสำนักวัดประดู่ทรงธรรม กับ “หลวงพ่อม่วง” ซึ่งเก่งทางกัมมัฏฐาน และเคยทำตะกรุดพิชัยสงครามถวายรัชกาลที่ 5
เมื่อเป็นหนุ่มศึกษาวิชากระบี่กระบองและอาวุธไทยโบราณทุกชนิด ตั้งแต่ดาบเดี่ยว ดาบสองมือ หอก แหลน หลาว ง้าว โตมร ไปจนถึงมวยไทย
เวลารำกระบี่กระบองหรือรำกลอง ได้รับเสียงชื่นชมว่าสวยยิ่งนัก เพราะเคยเล่นโขนเป็นตัวหนุมานในโรงของเจ้าพระยาเทเวศร์ วงศวิวัฒน์ (ม.ร.ว.หลาน กุญชร) มาก่อน
เป็นผู้รักการต่อสู้ เป็นนักเลงจริง เป็นที่ครั่นคร้ามของคนทั่วไป แต่ครั้นเมื่อบิดามารดา นำไปอุปสมบท ก็ละวางอาวุธและความเป็นนักเลงขมังอาคม เป็นพุทธบุตรได้อย่างประเสริฐ อยู่ในผ้าเหลืองจนมรณภาพ
อุปสมบทเมื่ออายุ 27 ปี ที่วัดโลกยสุทธาศาลาปูน โดยมีพระญาณไตรโลก (สะอาด) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระกุศลธรรมธาดา วัดขุนญวน กับพระอธิการชื่น วัดพระญาติการาม เป็นพระคู่สวด
ติดตามพระอธิการชื่น มาจำพรรษาที่วัดพระญาติ ร่ำเรียนด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน เวลาออกพรรษาก็ถือธุดงค์เป็นวัตร ไม่ค่อยอยู่ติดวัด ใกล้เข้าพรรษาก็กลับมาวัดเสียครั้งหนึ่ง
แม้ได้เป็นเจ้าอาวาสแล้ว ก็ยังออกเดินธุดงค์ จนกระทั่งอายุมากขึ้นจึงได้หยุด
หลวงพ่อกลั่นเป็นหนึ่งในสิบคณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูงในปีพ.ศ. 2452 ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธีร้อยกว่าองค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์เดินทางไปร่วมในพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละสิบองค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา 1 ท่อน วางบนม้า 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบกันถึงสามวันสามคืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่กลับไม่ได้ ที่ทำให้กบไสไม้ไปกลับได้ มีด้วยกัน 10 รูป ในสิบรูปนั้นมีหลวงพ่อกลั่นเป็นหนึ่งในสิบนั้นด้วย
หลวงพ่อกลั่น
หลวงปู่บุญ
หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
หลวงพ่อทอง วัดเขากบทวาศรี นครสวรรค์
หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย
หลวงปู่ยิ้ม หนองบัว
หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ ชุมพร
ความขลังของหลวงพ่อกลั่นเป็นที่กล่าวขานกันมาช้านานทั้งในคนอำเภออุทัย อำเภอนครหลวง หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อนวม วัดกลาง หลวงพ่อกรอง วัดเทพจันทร์ลอย ทั้งสามท่านนี้นับถือกัน มักจะลองวิชากันเสมอๆ หลวงพ่อนวมนิมนต์ให้หลวงพ่อกลั่นไปร่วมงาน หรือเมื่อท่านไปเยี่ยม มักจะลองวิชากัน ถ้าแก้เคล็ดได้ ก็สามารถเข้าวัดได้ ทั้งสามท่านนี้นับถือกันมาก แต่ต้องยอมให้หลวงพ่อกลั่นก็พลังจิตของท่านวิชานะจังงังของท่านเหนือกว่ามาก ทั้งย่นหนทางก็เก่งกว่า
ความรู้ของท่านทั้งด้านอาวุธโบราณและมวยไทยไปจนถึงวิทยาคม เล่าเรียนมาจากหลวงพ่อเฒ่ารอด หรือหลวงพ่อเฒ่ารอดเสือ วัดประดู่ในทรงธรรม พระอาจารย์เดียวกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ลูกศิษย์ของหลวงพ่อกลั่นที่ได้ศึกษาจากตำราสำนักนี้ เช่น หลวงปู่สี วัดสะแก และอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ฯลฯ
เมื่อท่านยังแข็งแรงอยู่นั้น สำนักวัดพระญาติการาม ผลิตนักกระบี่กระบองอันมีชื่อก้อง
วัดพระญาติการาม หรือชื่อเดิมว่า “วัดพบญาติ” เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองกรุงเก่ามาแต่อดีต แม้สงครามเสียกรุงจะทำให้วัดหยุดความเจริญไปพักหนึ่ง แต่ก็กลับมาเจริญอีกในที่สุด ด้วยบารมีของหลวงพ่อกลั่น
ด้วยรูปลักษณ์หลวงพ่อกลั่น จะเป็นนักเลงโบราณ หน้าตาค่อนข้างดุ พูดจาตรงๆ แรงๆ แต่กอปรด้วยความเมตตายิ่ง ท่านชอบเลี้ยงสัตว์ เช่น ลิง นก สุนัข แมว กา ไก่ และชะนี สัตว์ทุกชนิดจะเชื่องมาก
ลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่น ในสมัยนั้นมีทั้งมาเรียนวิทยาคม เรียนกระบี่กระบองป้องกันตัว หรือเรียนกลองยาวเล่นในพิธีบวชนาค สงกรานต์ แห่ผ้าป่าและกฐิน
วิชาเหล่านี้ท่านลงมือสอนด้วยตัวเองทั้งสิ้น
ด้านพระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกไว้ ล้วนเป็นที่ปรารถนา โดยเฉพาะเหรียญเสมารุ่นแรก ซึ่งเป็นเหรียญหลักยอดนิยมของวงการพระในปัจจุบัน
ในชีวิตท่านสร้างวัตถุมงคลโด่งดังที่สุด คือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2469, เหรียญกลม ปี 2478, เหรียญยันต์ตะกร้อ ปี 2483, เหรียญรุ่นชาตรี ปี 2507 เป็นต้น
บรรดาเหรียญคณาจารย์ดังของเมืองไทยนั้น เหรียญหลวงพ่อกลั่น ถูกจัดวางให้เป็นอันดับหนึ่งในชุดเบญจภาคีเหรียญ
วันที่ 21 ก.ค.2477 มรณภาพด้วยโรคชรา รวมอายุ 87 ปี พรรษา 60
เล่ากันว่า ในวันที่จะมรณภาพ อีกานับพันตัวมาออกันทั่ววัด ส่งเสียงตะเบ็งเซ็งแซ่ ครั้นเมื่อหลวงพ่อกลั่นสิ้นลมอีกาเหล่านั้นเงียบเสียงเป็นปลิดทิ้ง แล้วโผบินจากไปเป็นกลุ่มๆ ครั้นถึงวันฌาปนกิจรุ่งขึ้นมีการทำบุญอัฐิ อีกาก็กลับมาอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย พวกมันบินมาเกาะที่เชิงตะกอนและลานวัด ก่อนจะบินวนอยู่ 3 รอบ และตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นอีกาที่วัดพระญาติการามอีกเลย