หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม เป็นเจ้าภาพสร้างอาคารผู้ป่วย

พระเดชพระคุณ หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม

ได้มีเมตตารับเป็นเจ้าภาพสร้างอาคารผู้ป่วยใน สูง 10 ชั้น ให้แก่โรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ พร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือการแพทย์ที่ครบครัน ให้เป็นสมบัติของประเทศชาติ

 

คราวหนึ่งมีคณะนายแพทย์ ผู้อำนวยการมาจากโรงพยาบาล อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ได้เข้ามาเรียนปรึกษาถึงปัญหาความแออัดของประชาชน ที่เดินทางเข้ามารับการบริการจากโรงพยาบาล และอาคารตลอดจนเครื่องมือ ไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชน และอยากได้อาคาร และเครื่องมือแพทย์ให้ได้รับความสะดวก เมื่อหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ได้รับทราบปัญหาดังกล่าว เนื่องเพราะงบรัฐบาลมีจำกัดไม่เพียงพอต่อการตอบสนองของประชาชน หลวงพ่อสายทองท่านจึงได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแผ่เมตตาสงเคราะห์

ค่ำคืนนั้นท่านหลวงพ่อสายทองจึงได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาทบทวนหาทางช่วยเหลือผู้อำนวยการโรงพยาบาล
“ทำอย่างไรหนอ? จึงจะมีเงินไปสร้างอาคาร โรงพยาบาลให้คุณหมอได้”
จิตคิดพิจารณาทบทวนจึงได้ ทราบทางจิตมีโยมผู้ชายผู้หนึ่งมีเงินจำนวนก้อนหนึ่ง ปรารถนาจะสร้างโรงพยาบาลอยู่พอดี แต่ไม่ทราบว่าจะไปสร้างที่แห่งใดหลวงพ่อสายทองจิตได้แผ่เมตตาดลจิตใจให้ชายชราผู้นั้นมีจิตบริจาคทานในครั้งนี้เกิดความสะดุดใจเกี่ยวกับสิ่งที่จะสร้างประโยชน์แก่มหาชน รุ่งเช้าวันต่อมา คุณตาผู้นั้นได้มีโอกาสโทรสอบถามข้อมูลที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะไปบริจาคเงินสร้างอาคารที่โรงพยาบาลหนองแค ต่อมาผู้อำนวยการรับทราบจึงได้มากราบนมัสการหลวงพ่อสายทอง จึงได้เรียนความปรารถนาที่สำเร็จของตนให้หลวงพ่อสายทองทราบ ซึ่งตรงกับจิตที่หลวงพ่อสายทองหยั่งทราบล่วงหน้า มาก่อนหน้านั้นที่ท่านแผ่เมตตาดลจิตใจให้คุณตาผู้นั้นไปติดต่อดำเนินบอกกับผู้อำนวยการที่โรงพยาบาล แจ้งความประสงค์ในการบริจาคก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล ด้วยงบประมาณ ๕๐ ล้านบาทโดยขอบริจาคให้ปีละ ๑๕ ล้านบาท ติดต่อกันทุกปีจนครบ เพื่อความที่จะบังเกิดประโยชน์แก่มหาชนในเขตละแวกนั้นยิ่งนัก ทางโรงพยาบาลจึงให้เกียรติและขออนุญาตจากหลวงพ่อสายทองขอนำชื่อท่านไปตั้งเป็นชื่อห้องประชุม ท่านก็อนุญาตด้วยดี …

หลังจากที่โรงพยาบาลหนองแค ได้สร้างอาคารโรงพยาบาลเสร็จแล้วจึงได้จัดห้องพระสถานที่ไว้รับรองหลวงพ่อสายทอง ในขณะนั้นเองหลวงพ่อสายทอง จึงได้กำหนดจิตไปดูสถานที่ต่างๆ ในอาคารโรงพยาบาลหนองแค ที่สร้างขึ้นใหม่นั้น พอดีกับวันนั้นได้มีญาติโยมเข้าไปมองดูที่ห้องเตรียมไว้รับรองหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ในขณะนั้นจิตหลวงพ่อได้ไปดูในห้องรับรอง ญาติโยมกลุ่มนั้นกลับมองเห็นรูปกายของพระภิกษุรูปหนึ่ง ยืนอยู่ในห้องพระรับรองนญาติโยมที่เป็นผู้ป่วยจึงเข้าไปถามหมอพยาบาล
“ในห้องข้างบน มีพระอยู่ด้วยหรือ”

ปรากฏว่าพยาบาลกับตกตะลึง เพราะในห้องนั้นมีเพียงรูปถ่ายของหลวงพ่อสายทองอยู่เท่านั้น ไม่มีร่างกายหลวงพ่อสายทองอยู่แต่ประการใด แต่สิ่งที่ญาติโยมเห็นนั้นหรือจะเป็นด้วยอำนาจจิตอินทรีย์ธรรม บารมีของหลวงพ่อสายทอง เข้าไปเยือนอาคารรับรองห้องพระรับรอง แต่ปรากฎญาติโยมผู้นั้นมีสภาวะจิตสงบจึงได้มองเห็นรูปกายเป็นพระภิกษุยืนอยู่ในห้องนั้นอย่างเด่นชัด และรูปกายนั้นเหมือนกับในรูปถ่ายที่อยู่ในห้องรับรอง นั้นคือ รูปหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม นั้นเอง

และความความเมตตาอันประมาณมิได้ที่มีต่อชาวโลกนี้ ปัจจุบันหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ที่ถือแบบปฏิปทา จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ วัดป่าบ้านตาดท่านจึงได้รับอนุเคราะห์รับสร้างอาคาร โรงพยาบาลให้แก่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ด้วยงบประมาณ ๔๐ ล้านบาท จึงถือได้ว่าหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ท่านได้ปฏิบัติกิจภายในของท่าน เพียบพร้อมสมบูรณ์พูนผล จนบรรลุถึงจุดหมายปลายทาง แห่งเพศบรรพชิตแล้วท่านยังได้เมตตานำปัจจัยที่ชาวโลกนำมาถวายทำบุญกับท่านออกบริจาคสร้างประโยชน์ให้แก่ชาวโลกอันเป็นสิ่งน่าอนุโมทนายิ่งนัก

ทาน ศีล ภาวนา ธรรมทั้งสามนี้เป็นรากแก้วของความเป็นมนุษย์และเป็นรากเหง้าของพระศาสนาผู้เกิดมาเป็นมนุษย์ต้องเป็นผู้เคยผ่านคือเคยสั่งสอนธรรมเหล่านี้มา อย่างน้อยต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นเชื้ออยู่ในนิสัยของผู้จะมาสวมร่างเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติอย่างแท้จริง

ทาน คือเครื่องแสดงน้ำใจมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง ผู้มีเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ผู้อาภัพ ด้วยการให้การเสียสละแบ่งปันมากน้อยตามกำลังของวัตถุเครื่องสงเคราะห์ที่มีอยู่ จะเป็นวัตถุทาน ธรรมทาน หรือวิทยาทานแขนงต่างๆ ก็ตาม ที่ให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นได้มิได้หวังค่าตอบแทนใดๆ นอกจากกุศลคือความดีที่เกิดจากทานนั้น ซึ่งจะเป็นสิ่งตอบแทนให้เจ้าของท่านได้รับอยู่โดยดีเท่านั้น แต่สิ่งที่เหนือการให้ทานคือการอภัยทานที่ควรให้แก่กันในเวลาที่อีกฝ่ายหนึ่งผิดพลาดหรือล่วงเกิน คนมีทานหรือคนที่เด่นในการให้ทาน ย่อมเป็นผู้สง่า พระพุทธเจ้าจึงไม่ทรงชมเชยสมาธิสมาบัติเพื่อความเหาะเหินเดินอากาศดำดินดำน้ำ เหาะข้ามทะเลต่างๆ ว่าเป็นผู้ฉลาดเลื่องลือ แต่ทรงชมเชยผู้พยายามฝึกอบรมตนโดยวิธีต่างๆ เพื่อความดีงามจะเป็นทางสมาธิสมาบัติหรือทางใดก็ตามด้วยความรอบคอบต่อการระบายออกทางความประพฤติการกระทำ มิให้เกิดโทษแก่ตนและผู้อื่นว่าเป็นผู้ฉลาด เพราะความน่าอยู่ของโลกทั่วไปย่อมขึ้นอยู่กับความสุขใจเป็นหลักใหญ่ แม้ร่างกายและความเป็นอยู่ในด้านต่างๆ จะมีอดบ้างอิ่มบ้างตามคติธรรมดาของโลกอนิจจัง แต่ก็ยังน่าอยู่ เพราะผู้พาอยู่พาไป คือใจมีความสุขเท่าที่ควร ไม่แผดเผาเร่าร้อนจนทำให้คิดอยากย้ายภพย้ายชาติย้ายบ้านเรือนและสถานที่อยู่ต่างๆ

ขอบคุณข้อมูลhttp://phayai.blogspot.com/

Related posts

Leave a Comment